มูฟออน คืออะไรแล้วทำไมต้องมูฟออน?

มูฟออนคืออะไร แล้วทำไมต้องมูฟออน Move on แปลว่า ก้าวไปข้างหน้า เป็นอีกหนึ่งวลีเด็ดที่ชาวเน็ตไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์ ชอบใช้กันบ่อยมากและมีการใช้มาอย่าต่อเนื่อง “ไม่ได้คบซ้อน แค่มูฟออนไว” จากคำกล่าวสุดฮอต ของดาราสาวท่านหนึ่งชื่อว่า แพทริเซีย กู๊ด เลิกรากับหนุ่ม พีช พชร ลูกเจ้าของเครื่อเซนทรัล และเจ้าของแบรนด์มันฝรั่งทอดชื่อดั่ง พร้อมกับทิ้งวลีเด็ดให้ชาวเน็ตได้ใช้กันยาวๆไปเลยค่ะ หรือคำพูดที่ว่า “Move on ไม่ดีก็ไป เชิญค่ะนี่มันสมัยใหม่แล้วไม่มานั่งบั่นทอนตัวเองหรอก ชายหญิงเท่าเทียมกันแล้ว” เป็นคำพูดที่น้ำหวาน The Face พูดตัดพ้อลงบนไอจี หรือจะเป็นในด้านของนักร้องหนุ่มเสียงดีอย่าง ตูมตาม Thestar ก็ได้กล่าวเอาไว้เหมือนกันว่า “ตอนนี้ผมมูฟออนแล้ว” จนทำให้คนทั่วไปหลายๆคนหันมาใช้คำนี้ในตอนที่เลิกกับแฟนอยู่บ่อยๆ หรือแม่นักร้องดังหลายวงก็ได้นำคำว่า มูฟออน มาใช้ในการแต่งเพลงอีกด้วย เช่น วงมีน ที่ได้นำคำว่า Move on มาใช้เป็นชื่อเพลงโดยมีชื่อไทยว่า พอเถอะและเนื้อเพลงพอเถอะก็ยังมีเนื้อเพลงที่สุดแสดจะขยี้ใจคนที่อกหักอยู่บ่อยๆชอบพาตัวเองไปทำให้ใจเจ็บช้ำอีกด้วย แหม่ๆเรียกได้ว่าหนุ่มๆวงมีนแต่งเพลงได้โดนใจคนอกหักซะจริงๆเลยนะคะเนี่ย

เนื้อเพลง พอเถอะ (Move on) : Mean

เปิดดูอีกแล้วทั้งที่ก็รู้จะเป็นยังไง

แต่ห้ามไม่ไหว

เพราะฉันอยากรู้ว่าชีวิตเธอ

จะเป็นอย่างไรเธอจะทุกข์ใจบ้างไหม

ก็ยังแอบหวังให้เธอนั้นเหงาและไม่มีใคร

แต่เท่าที่เห็นก็ดูว่าเธอจะไปได้ดี

คงมีแค่ฉันที่ยังไม่ก้าวไปไหน

ต้องยอมรับความจริงแล้วเดินต่อไปสักที

ฉันไม่ควรจะจมอยู่อย่างนี้

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

หากว่ารอแล้วมันต้องเจ็บก็เลิกรอดีกว่า

เดินออกมาเธอคงไม่สนใจไม่รับรู้

อยู่ตรงนี้ต่อไปก็มีแต่เสียใจ

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

เหนื่อยเกินไปแล้วใจเมื่อไรจะรักตัวเองบ้าง

รอต่อไปก็คงจะไม่ต่างต้องท่องไว้

อย่ามัวเอาชีวิตไปผูกไว้ที่ใคร

พอเถอะพอได้แล้วพอ

หยุดรอได้แล้วถ้ารอแล้วมันไม่ได้อะไร

จะรักแค่ไหนก็ต้องตัดใจจากเธอสักที โน้

ทำอยู่อย่างนี้มันดูไม่มีความหมาย

ต้องยอมรับความจริงแล้วเดินต่อไปสักที

ฉันไม่ควรจะจมอยู่อย่างนี้

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

หากว่ารอแล้วมันต้องเจ็บก็เลิกรอดีกว่า

เดินออกมาเธอคงไม่สนใจไม่รับรู้

อยู่ตรงนี้ต่อไปก็มีแต่เสียใจ

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

เหนื่อยเกินไปแล้วใจเมื่อไรจะรักตัวเองบ้าง

รอต่อไปก็คงจะไม่ต่างต้องท่องไว้

อย่ามัวเอาชีวิตไปผูกไว้ที่ใคร

พอเถอะพอได้แล้วพอ

ตบหน้าตัวเองหนึ่งครั้งให้มันตื่น

หยุดเอาความรู้สึกไปฝากไว้กับคนอื่น

จะฝืนรอทำไมทั้งที่เขาไม่ต้องการ

และเมื่อไรจะเข้าใจเขาไม่ใส่ใจเราตั้งนานแล้ว

หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความหวัง

ไปต่อได้แล้วอย่ามัวยึดติดกับความหลัง

แม้วันนี้มันพังแม้ใจเรายังไม่ดี

แต่ถ้ามันถึงเวลาก็ควรจะพอสักที

ถ้าเขามีแต่จะให้เรา รอ รอ รอ รอ

เราควรบอกตัวเองว่าให้ พอ พอ พอ พอ

ถ้าเขามีแต่จะให้เรา รอ รอ รอ รอ

เราก็ควรบอกตัวเองว่าให้ พอ พอ พอ พอ พอ

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

หากว่ารอแล้วมันต้องเจ็บก็เลิกรอดีกว่า

เดินออกมาเธอคงไม่สนใจไม่รับรู้

อยู่ตรงนี้ต่อไปก็มีแต่เสียใจ

พอเถอะพอแล้ว พอพอเถอะควรพอได้แล้ว

เหนื่อยเกินไปแล้วใจเมื่อไรจะรักตัวเองบ้าง

รอต่อไปก็คงจะไม่ต่างต้องท่องไว้

อย่ามัวเอาชีวิตไปผูกไว้ที่ใคร โน

พอเถอะพอได้แล้วพอ

_____________________________________________________________________________________

*เพลงพอเถอะของวงมีนเพื่อนๆสามารถหาฟังกันได้แล้ววันนี้ผ่านทุกช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Youtube,Joox,Spotify*

จุดเริ่มต้นของวงมีน

ที่มาของวงมีนมีจุดเริ่มต้นมาจาก 4 หนุ่มจากรั้วธรรมศาสตร์ ได้ไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกของชุมนุม TU Folksong โดยเริ่มต้นมาจาก พัด วรภัทร ปาล์ม ปวีร์ กัน กันตพิชญ์ ภายใต้ชื่อวง “เซอร์เคิลสแควร์” และในภายหลังได้ โปเต้ ปิยพงษ์ มาเป็นตัวแทนร้องนำและจึงกลายมาเป็นวงมีนมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิลปินในค่าย Loveis วงมีนได้ไปออดิชั่นตามค่ายเพลงต่างๆ โดยตอนแรกค่าย Loveis ไม่ได้อยู่ในแผนการออดิชั่นของพวกเขาเลย Loveis เป็นเพียงค่ายเพลงที่พวกเขาใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปยังค่ายเพลงที่พวกเขาต้องการเท่านั้น ระหว่างทางวงมีนได้เข้าไปทีค่าย Loveis ซึ่งในขณะนั้นเจ้าของค่ายอย่าง คุณบอย โกสิยะพงษ์ ผู้บริหารค่าย ไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย แต่คุณบอยก็ได้ดูวิดีโอออดิชั่นของวงมีนที่ถ่ายเอาไว้ คุณบอยจึงได้ทำการติดต่อกับวงมีน และให้วงมีนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของค่ายเพลงรักอย่าง Loveis และต่อมาในปี 2560 วงมีนก็ได้ออกซิงเกิลแรกชื่อเพลงว่า “อ่อนแอก็แพ้ไป

ประวัติสมาชิก วงมีน

เอาล่ะค่ะเราก็ได้ทราบถึงที่มาที่ไปของวงมีนกันไปบ้างบางส่วนแล้วเนอะ ต่อไปเราไปทำความรู้จักกับ 4 หนุ่มสุดฮอตสมาชิกของวงมีนกันบ้างดีกว่าค่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละคนในวงมีหน้าที่อะไรกันบ้าง ตาม Heinekencitysymphony มาดูกันเลย

1.โป้เต้ ปิยะพงษ์

เกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2532 ร้องนำ เคยมีผลงานด้านการเขียนเพลง มีผลงานเพลงประกอบโฆษณาน้ำดื่มคริสตัล และผลงานอื่นๆที่ได้รับรางวัลอีกมากมาย

2.ปาล์ม ปวีร์

เกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2553 ที่เป็นมือคีย์บอร์ด หนุ่มใต้จากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่เคยผ่านมาทั้งผลงานเพลงประกอบ ภาพยนต์ รายการโทรทัศน์  โฆษณา และอื่นๆอีกมากมาย

3.พัด วรภัทร

เกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2534 เป็นทั้งหัวหน้าวงและนักแต่งเพลง มือกีต้าร์ และยังเป็นคนร้องแรปให้กับวงอีกด้วยมากความสามารถจริงๆเลยค่ะหนุ่มคนนี้ เพลงทุกเพลงของวงมีนก็ได้หนุ่มพัดนี่แหละค่ะที่ช่วยแต่งรวมไปถึง เพลงพอเถอะ move on

4.กัน กันตพิชญ์

เกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2534 มีตำแหน่ง กลองกับเบส ประจำวง ที่ได้ทำเพลงประกอบรายการโทรทัศน์ เพลงประกอบโฆษณา และงานอื่นๆอีกมากมายเพลงพอเถอะ Move on

เป็นอีกหนึ่งเพลงสุดจี๊ดโดนใจคนที่เคยอกหักหลายๆคนเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเพลงนี้เนื้อหาจะเกี่ยวกับที่แอบชอบคนอื่นมานานและไม่มีท่าทีว่าจะสมหวังเลยสักครั้ง รอต่อไปก็เสียเวลาเปลี่ยนรอนานก็มีแต่เสียใจรออย่างไม่มีความหวัง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ พอเถอะพอแล้วพอพอเถอะควรพอได้แล้วหากว่ารอแล้วมันต้องก็เลิกรอดีกว่า รอไปนานๆไม่มีอะไรดีขึ้นก็ มูฟออน แล้วไปอยู่คนเดียวใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดรักตัวเองให้มาก เลิกรอ รอคนไม่มีใจก็เหมือนรอรถไฟที่ป้ายรถเมย์